4/2/64

5 สถานที่ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

ป้อมพระจุลจอมเกล้า


เมื่อราว ร.ศ.112 หรือ พ.ศ.2436 ชาวสยามจะต้องจารึกว่าได้เกิดเหตุการณ์สำคัญระดับชาติขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในวงล้อมล่าอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างปราการปกปักษ์ทางน้ำไว้รอบด้าน หนึ่งในนั้น คือ ป้อมแหลมฟ้าผ่าหรือป้อมพระจุล ติดตั้งปืนใหญ่เสือหมอบ 7 กระบอก ซึ่งได้รับใช้ชาติด้วยการยิงถล่มเรือนำร่องของกองทัพฝรั่งเศสที่รุกล้ำน่านน้ำไทยจนจมไปหนึ่งลำ นำไปสู่การยุติข้อพิพาทเขตแดนริมฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงที่ยืดเยื้อมากว่าทศวรรษ แม้จะลงเอยที่ไทยต้องเสิยดินแดน 1 ใน 3 เพื่อรักษาเอกราชไว้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ป้อมประจุลในวันนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานกึ่งพื้นที่การเรียนประวัติศาสตร์และธรรรมชาติ ท่านจะได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ในฉลองพระองค์ชุดจอมทัพเรืองามสง่า พระหัตถ์ทรงกระบี่ปกปักษ์แผ่นดินไทย แล้วศึกษาวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ได้ที่พิพิธภัณฑ์ใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงแม่กลอง เรือรบประดับครุฑสีแดงโดดเด่นที่ประจำการยาวนานที่สุดในกองทัพมาถึง 60 ปี

 

ที่อยู่ : พระสมุทรเจดีย์, สมุทรปราการ

เครดิต : http://1ab.in/OQT

 

ป้อมผีเสื้อสมุทร


ป้อมผีเสื้อสมุทร ได้เริ่มสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2362 สมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมารัชกาลที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงปรับปรุงกำแพงป้อมผีเสื้อสมุทรใหม่ จนถึง พ.ศ. 2436 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงปรับปรุงตัวป้อมและถอดปืนโบราณออกแล้วติดตั้งปืนเสือหมอบ หรือ ปืนหลุม จำนวน 3 กระบอก ซึ่งทรงสั้งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ เป็นรุ่นเดียวกันที่นำไปติดตั้งที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ป้อมผีเสื้อสมุทร เคยได้ทำศึกเคียงบ่าเคียงไหล่กันกับป้อมพระจุลจอมเกล้าใน "วิกฤตการณ์ ร.ศ.112" สถานที่ท่องเที่ยวภายในป้อมผีเสื้อสมุทร - ศาลาพักริมน้ำ - อาคารพักเจ้าหน้าที่ - คลังเก็บดินปืน - อาคารพิพิธภัณฑ์ - คลังทุ่นระเบิด - หลุมปืนเสือหมอบ - ศาลเจ้าพ่อลิ้นทะเลดำ - ศาลเจ้าแม่ผีเสื้อสมุทร - กำแพงเก่า - โป๊ะเทียบเรือ

 

ที่อยู่ : 144 ตำบลปากคลองบางปลากัด พระสมุทรเจดีย์, สมุทรปราการ

เครดิต : http://1ab.in/OQ0

 

พระสมุทรเจดีย์

อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือปูชนียสถานที่สำคัญที่สุด เมื่อพระสมุทรเจดีย์ คือ ตราประจำจังหวัดสมุทรปราการซึ่งชาวเมืองเรียกขานในอีกชื่อหนึ่งว่า "พระเจดีย์กลางน้ำ" ตามสภาพเดิมที่ตั้งอยู่บนเกาะมีน้ำล้อมรอบ แต่ภายหลังแม่น้ำตื้นเขินขึ้นจนเป็นแผ่นดินเชื่อมติดกัน และยังเป็นพระเจดีย์สำคัญที่กว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ใช้เวลาถึง 3 รัชกาล ในอดีตพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์กับเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นแม่กองสร้างป้อมปราการ 6 ป้อม เมื่อ 3 ปีผ่านไปจึงแล้วเสร็จ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ที่เกาะหาดทรายท้ายป้อมผีเสื้อสมุทรเพื่อเป็นอนุสรณ์และเฉลิมพระนามว่า "พระสมุทรเจดีย์" ทว่าเสด็จสวรรคตเสียก่อนจะแล้วเสร็จ ครั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อจนเสร็จสิ้นเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองสูง 20 เมตรเมื่อ พ.ศ. 2371 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้ช่างถ่ายแบบพระเจดีย์ทรงกลมที่กรุงศรีอยุธยามาสวมทับพระเจดีย์เดิมจนสูงถึง 39.75 เมตร ทั้งยังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์จากพระบรมมหาราชวังมาบรรจุไว้แทนของเดิมที่มีผู้ลักลอบไปรวมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสถานที่ขึ้นอีกหลายแห่ง อาทิ ศาลาเก๋งจีนหอเทียน หอระฆังตึกฝรั่งตกแต่งจิตรกรรมฝาผนังความเป็นมาเมืองสมุทรปราการและพระสมุทรเจดีย์ รวมทั้งพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรฯลฯ สิ้นพระราชทรัพย์ในการก่อสร้าง 588 ชั่งหรือ 47,240 บาท ในเวลานั้นจนกลายเป็นศูนย์รวมสถาปัตยกรรมไทยจีนและตะวันตกที่สำคัญ กรมศิลปากรจึงประกาศขึ้นทะเบียนพระสมุทรเจดีย์เป็นโบราณสถานของชาติใน พ.ศ. 2536 ชาวเมืองสมุทรปราการจะเฉลิมฉลองปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11 ด้วยงานนมัสการพระสมุทรเจดีย์เป็นประจำทุกปี มีการเชิญผ้าแดงผืนใหญ่ตั้งบนบุษบก แห่รอบเมืองและล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงอำเภอพระประแดง แล้วแห่กลับมาทำพิธีทักษิณาวัตร จากนั้นจึงนำผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ รวมทั้งประชาชนจะได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านในด้วย 

เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ +66 2425 8898

 

ที่อยู่ : ถนนสุขสวัสดิ์ พระสมุทรเจดีย์, สมุทรปราการ

เครดิต : http://1ab.in/OQ7


ศาลพระเสื้อเมือง

โบราณสถานจากสมัยอยุธยาที่กลายเป็นแหล่งรวมธารน้ำใจและแรงศรัทธาของชาวพระประแดงอย่างแท้จริง เดิมทีตัวศาลที่ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีสาบานและปฏิญาณตนของทหารเรือในกองเรือ อยู่ภายในป้อมแผลงไฟฟ้า กองทหารเรือที่ 3 นั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก สันนิษฐานว่าเป็นมรดกตกทอดมาจากยุคสร้างเมืองพระประแดงเดิมเลยทีเดียว ครั้นเมื่อทำการรื้อถอนป้อม หน่วยราชการและชาวพระประแดงจึงร่วมกันสร้างศาลพระเสื้อเมืองขึ้นใหม่ตามแบบของกรมศิลปากรและอัญเชิญพระพุทธรูปสีทองปางห้ามญาติ ในอิริยาบถยืน ตั้งฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองเสมอพระอุระและยื่นไปข้างหน้ามาประดิษฐาน ทำให้ศาลเจ้าแม่หรือศาลพระเสื้อเมืองเป็นสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของเหล่าผู้มีศรัทธาอีกครั้ง เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ +662250 5500

 

ที่อยู่ : พระประแดง, สมุทรปราการ

เครดิต : http://1ab.in/ORc

 

เมืองโบราณ

 พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่มีรูปร่างคล้ายด้ามขวานทองของประเทศไทยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เจ้าของบริษัทวิริยะประกันภัย เปิดให้บริการครั้งแรกใน พ.ศ. 2515 ด้วยความมุ่งมั่นจะรักษาและสืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมไทยเอาไว้ให้ลูกหลานในประเทศไทย จึงได้จำลองสถานที่ต่าง ๆ เช่นปราสาท วัง วัดและงานประติมากรรม บางแห่งจำลองตามแบบสถานที่จริง บางแห่งเป็นงานผาติกรรมยกเอาสิ่งปลูกสร้างจากสถานที่จริงมาบูรณะให้อยู่ในสภาพเดิม เมืองโบราณแบ่งพื้นที่ตามภูมิภาค เช่น ภาคเหนือ ชมวัดภูมินทร์วิหารจตุรมุขแห่งจังหวัดน่าน ภายในตกแต่งภาพปู่ม่านย่าม่าน และวัดจองคำซึ่งเชื่อมต่อวิหาร ศาลา และกุฏิไม้สักทั้งหมดไว้ในอาคารเดียวซึ่งทำการผาติกรรมมาจากจังหวัดลำปาง ส่วนภาคกลางงามเด่นด้วยพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจากสมัยอยุธยาซึ่งหลงเหลือเพียงซากฐานพระที่นั่ง แต่เมืองโบราณค้นคว้าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ แล้วสร้างขึ้นใหม่ตามต้นแบบอย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนภาคอีสานจะได้ชมพระธาตุพนมที่สร้างตามแบบโบราณ สีขององค์พระธาตุจึงต่างจากที่เห็นในปัจจุบัน และนักท่องเที่ยวต้องตะลึงกับความอลังการของเขาพระวิหารที่มีการถมที่คล้ายภูเขาสูง ให้ขึ้นไปชมความงดงามของตัวปราสาทและทิวทัศน์เมืองปากน้ำรอบทิศทาง 360 องศา ซึ่งมองเห็นไกลไปถึงปากอ่าวไทยเลยทีเดียว ส่วนโซนที่ไม่ควรพลาดคือ โซนรังสรรค์ที่มีสิ่งปลูกสร้างจากจิตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เช่น ศาลาพระอรหันต์ สะพานรุ้ง เขาพระสุเมรุ และสวนพฤษชาติในวรรณคดีไทยซึ่งยังรวมสถานที่ตามบันทึกหรือภาพจารึกในประวัติศาสตร์ หรือสถานที่ซึ่งหาชมไม่ได้แล้วในปัจจุบัน เช่น หอพระแก้วและหอคำเมืองลำปางมาสร้างขึ้นใหม่ โซนพักผ่อนต้องไปที่ตลาดน้ำและตลาดบกจำลองวิถีชีวิตโบราณ มีอาหารคาวหวานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งต้องแลกเงินรูมาจับจ่าย ยิ่งเสริมกับการแต่งตัวชุดไทยของพ่อค้าแม่ขายด้วยแล้ว ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไมในสมัยโบราณของไทยจริง ๆ 

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. 

อัตราค่าบริการ 

-บัตรเที่ยวชมเวลา 09.00-16.00 น. ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก 175 บาท ค่านำพาหนะเข้าสถานที่คันละ 400 บาท 

- บัตรเที่ยวชมเวลา 16.00-19.00 น. ผู้ใหญ่ 175 บาท เด็ก 80 บาท ค่านำพาหนะเข้าสถานที่คันละ 200 บาท (ราคานี้รวมรถราง จักรยาน และนั่งเรือ) 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ +66 2709 1644-8หรือเว็บไซต์ www.ancientcitygroup.net/ancientsiam/th/home

 

ที่อยู่ :  963 ถนนสุขุมวิท เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ
เครดิต : http://1ab.in/ORk

 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only