23/1/64

5 สถานที่เที่ยวธรรมชาติที่ระนอง

บ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง

บ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง อยู่ที่หมู่ที่ 3 บ้านพรรั้ง ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว บ่อน้ำร้อนในหุบเขาท่ามกลางธรรมชาติ น้ำใสสะอาดไม่มีกลิ่นกำมะถัน ได้บรรยากาศเหมือนแช่น้ำร้อนในอ่างจากุซซี่กลางป่า แบ่งเป็น 2 บ่อ คือ บ่อน้ำร้อน และบ่อน้ำเย็น นอกจากนี้ยังมีน้ำแร่ไหลผสมในลำคลองด้านล่างไหลผ่านบ่อน้ำแร่ร้อน ใครชอบสปาปลาที่นี่ยังสามารถแช่เท้าในลำธารให้ปลาตอดเล่นก็เพลินไปอีก ค่าเข้าชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงมีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 10 หลัง สามารถติดต่อสอบถามจองห้องพักที่บ้านพักนักท่องเที่ยวบ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง โทร. 0 7786 2103
การเดินทาง จากตัวเมืองระนอง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ถึงกิโลเมตรที่ 620-621 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร

 

ที่อยู่ : หมู่ 3 เมืองระนอง, ระนอง

เครดิต : http://1ab.in/Iyt


คอคอดกระ (กิ่วกระ)

คอคอดกระ หรือ กิ่วกระ เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู บริเวณแม่น้ำกระบุรี ซึ่งเป็นแนวกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า ด้วยระยะทางเพียง 100 เมตรเท่านั้น ชาวบ้านทั้งสองฝั่งจึงใช้แม่น้ำนี้เป็นเส้นทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก บริเวณคอคอดกระมีระยะทางจากฝั่งทะเลตะวันตกจรดฝั่งตะวันออกกว้างประมาณ 50 กิโลเมตร โดยมีส่วนที่อยู่ในไทยในฝั่งตะวันออก ที่มีความกว้างเพียง 9 กิโลเมตร ส่วนฝั่งตะวันตกอยู่ในเขตปกครองของเมืองตระ ประเทศพม่า อย่างไรก็ตาม คอคอดกระยังเหมาะเป็นจุดถ่ายภาพเนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของระนอง และยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำกระบุรี ซึ่งไหลพาดผ่านพรมแดนไทย-เมียนมาร์ 

อดีตแห่งคอคอดกระ คอคอดกระ มีความสำคัญ ตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน เนื่องจากเคยเป็นเส้นทางเดียวที่พม่าใช้เดินทัพผ่านภูเขาสลับซับซ้อนแล้วลัดช่องเขาเข้ามาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ฝั่งทะเลตะวันออก และยังเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์ที่สำคัญทางเศรษฐกิจตั้งแต่ในสมัยพระนารายณ์มหาราช ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการขุดคลองตัดผ่านที่จะสามารถใช้เป็นทางลัดเพื่อร่นระยะทางในการเดินเรือ จากฝั่งทะเลอันดามันเข้ามายังอ่าวไทยได้โดยไม่ต้องอ้อมไปทางแหลมมลายู แนวคิดที่จะขุดคอคอดกระจึงเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็เลิกล้มไป เช่น ในสมัยรัชกาลที่ 4 ฝรั่งเศสคิดจะขุดคอคอดกระ แต่ก็เกิดความขัดแย้งกับประเทศอังกฤษเกี่ยวกับผลประโยชน์ของธุรกิจท่าเรือในปีนังและสิงคโปร์ซึ่งเป็นทางเดินเรือเก่าแก่ รวมทั้งปัญหาพรมแดนพม่า-ไทย ซึ่งกั้นด้วยแม่น้ำกระบุรี ส่วนในปัจจุบันแนวคิดที่จะขุดคอคอดกระก็ยังคงไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติทางด้านการทหาร แม้ว่าจะได้รับความสนใจจากทั้งทางราชการและประชาชน เนื่องจากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงก็ตาม

 

ที่อยู่ : กระบุรี, ระนอง

เครดิต : http://1ab.in/IyB

 

น้ำตกปุญญบาล

น้ำตกปุญญบาลเป็นน้ำตกที่มีความสูงราว 15 เมตรและสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากริมถนนเลยทีเดียว น้ำตกสายนี้เดิมชื่อ น้ำตกเส็ดตะกวด มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่กลับมีน้ำไหลแรงตลอดปี และมีทิวทัศน์สวยงาม โดยน้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้นมีต้นน้ำมาจากลำห้วยเล็ก ๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด โดยแต่ละชั้นมีความน่าสนใจแตกต่างกัน ได้แก่ ชั้นที่ 1 ปุญญบาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร รอบ ๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้น ๆ น้ำตกชั้นที่ 2 เรียกว่าน้ำตกโตนไม้ไผ่ และน้ำตกชั้นที่ 3 เรียกว่าน้ำตกโตนต้นเฟิร์นนอกจากนี้ จากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร ที่จัดทำขึ้นให้เดินได้สบาย ๆ อีกทั้งบริเวณต้นน้ำยังมีต้นพญาไม้ หรือขุนไม้ขนาดโตวัดรอบที่ระดับความสูงเพียงอก นักท่องป่าคนใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่หน่วยจัดการป่าชายเลนที่ รน.3 อ.เมือง (เส้นทางที่จะไปอำเภอละอุ่น) เพื่อจัดเจ้าหน้าที่บรรยายและให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพพื้นที่และพรรณไม้ด้วย สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นั้น บริเวณน้ำตกมีลานจอดรถ ร้านอาหาร และห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยว ***ปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติ วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน


ที่อยู่ : เมืองระนอง, ระนอง

เครดิต : http://1ab.in/IyG

 

บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน

เพราะระนองคือดินแดนแห่งน้ำพุร้อน และเป็นจุดหมายปลายทางที่คนรักสุขภาพต้องชื่นชอบ โดยเฉพาะการได้มาเยือนบ่อน้ำร้อน-สวนรักษะวารินแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์บริการแล้วว่า ประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญและไม่มีสารกำมะถันเจือปน และด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส จึงทำให้น้ำแร่ร้อนจากที่นี่มีประโยชน์ ในการบำบัดรักษาสุขภาพ โดยประกอบด้วยบ่อหลัก ๆ 3 บ่อ ได้แก่ บ่อพ่อ เป็นบ่อปูนซีเมนต์วงกลมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.80 เมตรสูงจากผิวดิน 0.80 เมตร ลักษณะของน้ำร้อนนั้นใส มีฟองก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ผุดขึ้นมาค่อนข้างน้อย ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่ายน้ำร้อนจะไหลล้นออกนอกบ่อตลอดเวลา ทำให้บริเวณบางส่วนของปากบ่อและผนังบ่อน้ำด้านนอกมีการสะสมตัวของแร่แคลไซต์ บ่อแม่ เป็นบ่อปูนซีเมนต์ขนาดเล็กกว่าบ่อพ่อ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงจากผิวดิน 0.85 เมตรลักษณะ น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใส มีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผุดขึ้นมาเป็นจังหวะ ๆ และมีปริมาณมากกว่าบ่อพ่อ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่าย และมีแร่อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อยที่ด้านในของผนังบ่อ บ่อลูกสาว เป็นบ่อปูนซีเมนต์เช่นเดียวกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.00 เมตร สูงจากผิวดิน 0.90 เมตร ลักษณะน้ำร้อนมีลักษณะใส มีฟองก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ผุดขึ้นมายังผิวน้ำมากกว่าสองบ่อแรกไม่มีกลิ่น กำมะถัน ไม่มีสาหร่าย มีแร่อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อยที่ด้านในของผนังบ่อเช่นเดียวกับบ่อแม่ นอกจากนี้ ใกล้ ๆ กับบ่อน้ำร้อนยังมีสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" หมายความว่า น้ำที่ใช้รักษาโรคได้ อันเป็นนามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานไว้ เมื่อคราวเสด็จเยือนระนอง พ.ศ. 2510 ภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงาม รวมทั้งบริการร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก มุมเก๋ ๆ สำหรับถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน

 

ที่อยู่ : เมืองระนอง, ระนอง

เครดิต : https://1th.me/sqg2s

 

สวนรุกขชาติป่าชายเลน

สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 11 ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลทรายแดง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองลำเลียง-ละอุ่น เป็นป่าชายเลนโครงการคลองละอุ่น เริ่มดำเนินการปลูกพรรณไม้ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2526 ต่อมาในปี 2528 ได้ปรับปรุงให้เป็นสวนรุกขชาติป่าชายเลน สร้างทางเดินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาทัศนศึกษา ระยะทางประมาณ 1,500 เมตร พรรณไม้ป่าชายเลนในพื้นที่ดังกล่าว มีประมาณ 25 ชนิดจาก 68 ชนิดทั่วโลก เช่น ต้นตะบูนดำยักษ์อายุกว่า 200 ปีซึ่งถือได้ว่า เป็นแหล่งป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดของไทยขณะนี้ ระหว่างสะพานทางเดินคอนกรีต มีป้ายบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนและชนิดของพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ในป่าชายเลน นอกจากมีชนิดไม้และกลุ่มไม้ป่าชายเลน ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติแล้ว ป่าชายเลนบริเวณนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์มากมายอาทิ เช่นสัตว์บก ได้แก่ลิงแสม สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู และปลาชนิดต่าง ๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น นาก ตะกวด และสัตว์ปีก ได้แก่ นกชนิดต่าง ๆ เช่น นกเหยี่ยว นกกาน้ำ นกยางขาว และนกกินปลา นอกจากสะพานทางเดินคอนกรีตแล้วยังได้จัดสร้างสะพานทางเดินท่องเที่ยวในป่าชายเลนเพิ่มเติม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสป่าชายเลนอย่างใกล้ชิด โดยประกอบด้วยสะพานข้ามคลอง ยาว 38 เมตร สะพานทางเดินท่องเที่ยวระยะทางประมาณ 200 เมตร ศาลาพักผ่อน และหอคอยชมเรือนยอดไม้ป่าชายเลน (Canopy Watch Tower) เพื่อนให้นักท่องเที่ยวที่สนใจชมทิวทัศน์ ดูนก และชมเรือนยอดของไม้ป่าชายเลนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับป่าและเล็งเห็นคุณค่าและความสำคัญของป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีห้องนิทรรศการบริเวณจุดชมวิวของศูนย์ฯ ซึ่งรวบรวบพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ ให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและหากต้องการสัมผัสทัศนียภาพของท้องทะเลและสำรวจสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนแห่งนี้ หากมีโอกาสสามารถนั่งเรือชมหมู่บ้านโดยรอบ ที่อาศัยป่าชายเลนในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านหาดทรายขาว บริเวณคลองตำโหงง ซึ่งมีกลุ่มต้นโกงกางยักษ์ อายุมากกว่า 200 ปีขึ้นอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ โดยบริเวณนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ ทัศนศึกษาเมื่อปี 2539 นอกจากต้นโกงกางยักษ์แล้ว สามารถศึกษาการทำกะปิจากหมู่บ้านเกาะเหลาที่ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านและอาศัยประโยชน์จากป่าชายเลนมาเอื้อประโยชน์แก่ชาวบ้านกลายเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าOTOP ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด และบริเวณหลังเกาะเหลานี้เองยังสามารถสัมผัสวิถีการดำรงชีวิตของหมู่บ้านชาวเล ที่มีวัฒนธรรมและภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ หากมาเป็นกลุ่มคณะ สามารถติดต่อวิทยากรนำชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติได้ แต่ควรติดต่อล่วงหน้าประมาณ 7 วัน

 

ที่อยู่ : 11 หมู่ 1 ถนนเพชรเกษม เมืองระนอง, ระนอง

เครดิต : https://1th.me/hr7hZ

 

 

 



 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only