25/11/63

ท่องเที่ยวเมืองนครสวรรค์

ทุ่งหินเทิน

ทุ่งหินเทิน  ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลปางสวรรค์ อำเภอแม่วงก์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 70 กิโลเมตร หรือจากอำเภอลาดยาวไปตามถนนลาดยางบ้านห้วยน้ำหอม ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าเชิงเขาที่มีกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งวางซ้อนกันอยู่หลายแห่งหลายรูปแบบ กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ในลักษณะที่สัมผัสกันเพียงเล็กน้อยเหมือนมีคนจับวาง นับเป็นสวนหินธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา

คงให้ความรู้สึกน่าพิศวงไม่น้อยถ้าจู่ ๆ คุณได้พบกับทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่วางซ้อนกันราวกับ มีมือที่มองไม่เห็นมาจัดวางไว้อย่างตั้งใจอย่างไรอย่างนั้น และความรู้สึกนี้คงเกิดขึ้นแวบแรกที่คุณได้มาเยือนทุ่งหินเทิน อันเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่สร้างสวนหินธรรมชาติอันสวยงามแปลกตาแห่งนี้ และน่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อการศึกษาทางธรณีวิทยาพบว่า ก้อนหินเหล่านี้เป็นหินแกรนิตที่มีอายุถึง 210 ล้านปี มีลักษณะเป็นหินก้อนมน ขนาดใหญ่ ผุพังสึกกร่อนจนเกิดรูปลักษณ์ที่สวยงามในรูปแบบหินทรงตัว หรือ balanced rocks ซึ่งหมายถึงหินที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันมากวางซ้อนกันในแนวดิ่งด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่พอดี โดยก้อนหินเหล่านี้วางตัวอยู่ภายในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ถึง 14 ไร่ นับเป็นความพิเศษที่ซุกซ่อนอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งคุณสามารถมาสัมผัสได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์ โทร. +66 5622 1602, +66 5622 1034, +66 5622 1656 ต่อ 114

 

ที่อยู่ : หมู่ 5 เมืองนครสวรรค์, นครสวรรค์

เครดิต : https://1th.me/bWRbk

 

ศาลเจ้าแม่หน้าผา

ศาลเจ้าแม่หน้าผา ซึ่งมีชื่อเดิมเรียกว่าเจ้าแม่ทองสุข หรือเจ้าแม่ลำดวน ส่วนชาวลาวโซ่งเรียกว่า เจ้าแม่ทองดำ ทั้งนี้ เนื่องจากรูปเจ้าแม่เดิมนั้นใช้ไม้จันทร์ดำแกะสลัก มีความเชื่อกันว่าเจ้าแม่ชอบกินหมาก และปัจจุบันได้ปั้นรูปเจ้าแม่ขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นแบบจีน และรู้จักกันในนาม "เจ้าแม่หน้าผา" ภายในศาลเจ้านี้นอกจากจะมีปึงเถ่าม่า หรือเจ้าแม่หน้าผา เป็นเทพประธานแล้ว ยังมีปึงเถ่ากง หรือเจ้าพ่อหน้าผา ที่สร้างจำลองเจ้าพ่อเทพารักษ์ รวมทั้งเทพเจ้าอื่น ๆ อีกหลายองค์ เช่น เจ้าพ่อกวนอู หรือ "กวงกง" เจ้าแม่สวรรค์ หรือ "เทียนโหวเซี้ยบ้อ" หรือ "หม่าโจ้ว" หรือ "เทียนโหวเซิ่งหมู่" ในภาษาไหหลำ หรือ"หม่าจู่" ในภาษาฮกเกี้ยน และเทพใช้ซิ่งเอี้ย หรือ " ไฉ่เส้นเหย " ในภาษาไหหลำที่ประชาชนนิยมมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยทุกปีจะมีการนำองค์ปึงเถ่ากงและปึงเถ่าม่า เข้าร่วมขบวนแห่ที่เรียกว่า "เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ" ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของนครสวรรค์เลยทีเดียว ความเป็นมา มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า มีตายายคู่หนึ่ง ฝันเห็นหญิงชรา ผมยาวเนื้อตัวเปียกปอน มาบอกว่า ตัวเองลอยน้ำมาจากอยุธยาถึงนครสวรรค์หนาวมาก ขอให้เอาขึ้นจากน้ำที พอรุ่งเช้าจึงได้ไปริมแม่น้ำซึ่งมีลักษณะเป็นบริเวณน้ำวน ซึ่งบริเวณนั้นมีหน้าผาค่อนข้างสูงชันก็ได้พบไม้จันทร์ดำขนาดกว้าง 1 ฟุต สูง 2 ฟุต แกะเป็นรูปเจ้าแม่ติดอยู่ซอกหินอยู่รวมกับไม้ที่แกะเป็นรูปอื่น ๆ จึงได้อัญเชิญขึ้นมาพร้อมกัน และได้สร้างศาลไม้เล็ก ๆ ไว้บริเวณริมแม่น้ำต่อมาเถ้าแก่ง่วนเซ้ง เจ้าของโรงแรมง่วนเซ้งและเจ้าของโรงไม้ขายกระดาน ได้ฝันว่ามีหญิงชรา ผมยาว มาขอให้ไปช่วยสร้างศาลให้ท่าน เถ้าแก่ฝันถึงเช่นนี้ 3 วันติดต่อกัน จึงได้ไปบอกกับนายคุงเคี้ยม ให้ช่วยเดินทางหาเจ้าแม่ และเมื่อเดินทางหาเลียบตามแม่น้ำขึ้นไปทางเหนือจนถึงบริเวณหน้าผาก็ได้เห็นศาลไม้ชั่วคราวริมแม่น้ำจึงได้ขอที่ดินชาวบ้านแถวนั้นสร้างเป็นศาลเจ้าให้ท่าน จากนั้นก็มีการบูรณะเรื่อยมาจนกลายเป็นศาลใหญ่เช่นในปัจจุบัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.

 

ที่อยู่ : เมืองนครสวรรค์, นครสวรรค์

เครดิต : https://1th.me/fe4sw

 

วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง

วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง ตั้งอยู่บนเขาชอนเดื่อ นอกจากมีทิวทัศน์ที่มีจุดสนใจจากผู้มองจากภายนอกที่มีสภาพป่าสลับกับภูเขาหินปูนแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเขา เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ ถ้ำหินปูนใหญ่น้อยกว่า 70 ถ้ำ ปัจจุบันเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว

ที่นี่เป็นวนอุทยานที่อุดมไปด้วยถ้ำหินปูนน้อยใหญ่กว่า 70 ถ้ำ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินทัศนียภาพของผืนป่าสลับกับภูเขาหินปูน ตลอดทั้งการเดินศึกษาธรรมชาติไปตามเส้นทางที่จัดไว้ให้แล้ว ยังจะได้ตื่นตากับไฮไลท์ของที่นี่จึงมีถ้ำที่น่าสนใจมากมาย โดยถ้ำที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจนั้น ได้แก่ 

- ถ้ำดาวดึงส์ เป็นถ้ำที่อยู่ทางทิศเหนือ มีเอกลักษณ์ตรงที่โถงถ้ำนั้นใหญ่โตโอฬารถึงขนาดจุคนได้มากถึง 400-500 คนเลยทีเดียว อีกทั้งอากาศภายในถ้ำยังไม่อึดอัด เนื่องจากมีช่องระบายอากาศอยู่ด้านบน 

- ถ้ำประกายเพชร อยู่ด้านทิศตะวันตก มีความลึกประมาณ 50 เมตร มีห้องโถงใหญ่ 5 ห้องเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปทรงต่าง ๆ เช่น ปลาโลมา กำแพงเมืองจีน ตามแต่จินตนาการจะพาไป 

- ถ้ำประดับเพชร อยู่ทางด้านใต้ เป็นถ้ำที่มีห้องโถง 4 ห้อง มีหินงอกหินย้อยสีน้ำตาลอ่อน-ขาวนวลที่ทอประกายแสงสีระยิบระยับดูเหมือนเพชร 

 - ถ้ำวังไข่มุก อยู่ทางด้านใต้เช่นเดียวกัน มีห้องโถง 3 ห้อง มีหินงอกหินย้อยสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน และสีขาวนวล แถมประดับด้วยเกล็ดเพชรส่องแสงเป็นประกายคล้ายพระราชวังก็ไม่ปาน และยังมีบันไดนำขึ้นไปชมถ้ำอีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง ตำบลตาคลี อำเภอ ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ 60140 โทร. +66 5622 1140, +66 5623 1416 โทรสาร +66 5622 2735

 

ที่อยู่ : วนอุทยานถ้ำเพชร-ถ้ำทอง ตำบลตาคลี อำเภอ ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ 60140

เครดิต : https://1th.me/uWVs3

 

วัดเขาดินใต้ หรือวัดพระหน่อธรณินทร์

วัดเขาดินใต้ หรือวัดพระหน่อธรณินทร์  เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ริมฝั่งแม่น้ำปิงแห่งนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายซึ่งมีอายุประมาณ 300 ปีเศษเลยทีเดียว โดยตัววัดตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดมหาโพธิ์ใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดพี่วัดน้องกัน สาเหตุนี้เองจึงมีชื่อเต็มว่าวัดพระหน่อธรณินทร์ใกล้วารินคงคาราม เรื่องราว "หลวงพ่อเฮง" ความสำคัญของวัดเขาดินใต้ปรากฏชัดมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสต้นทางชลมารค เสด็จเมืองกำแพงเพชร ทรงแวะวัดเขาดินใต้ เพื่อนมัสการหลวงพ่อเฮง ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาส ทรงสนทนาธรรมกับหลวงพ่อเฮงเป็นเวลานานจนพอพระราชหฤทัยและทรงชื่นชมในศีลา-จารวัตรของภิกษุรูปนี้ ภายหลังที่ได้เสด็จฯ กลับพระนคร ได้นิมนต์หลวงพ่อเฮงเข้าเฝ้าบ่อยครั้ง โดยเฉพาะ ในราชพิธีสำคัญ ๆ ของพระราชวัง และทรงภายหลังได้กรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหลวงพ่อเฮง เป็นพระครูชั้นพิเศษ มีพระราชทินนามว่า พระครูพิสิษฐสมถคุณ พัดยศมีแถบสีขาวเป็นสัญลักษณ์เป็นพระครูชั้นพิเศษ ซึ่งพัดยศนี้ ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ 

สถานที่สำคัญ 

- ภูเขาศิลาสองลูกที่อยู่ทางด้านหลังของวัด โดยเป็นภูเขาที่มีทางเดินติดต่อถึงกันได้ทั้งนี้ มีความเชื่อระหว่างภูเขาทั้งสองลูกนี้ว่ามีถ้ำลับแลที่เชื่อกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวลับแลมาก่อน วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงปี่พาทย์ ฆ้อง เครื่องสาย บรรเลงเพลงดังขึ้นมา ส่วนด้านหลังวัดนั้น เป็นบึงใหญ่ทิวทัศน์สวยงามที่สามารถมองเห็นเขาหลวงแต่ไกล 

- มณฑปเก่าที่ประดิษฐานรอยพระบาทจำลองสำริดที่มีจารึกด้านข้าง พ.ศ. 2456 อยู่ตรงทางทิศเหนือของบริเวณวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา รอยพระบาทจำลองนี้ได้รับพระราชทานจากพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 5 

- เจดีย์เก่าและพระอุโบสถ ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศใต้ ซึ่งมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า สมเด็จพุฒจารย์โต พรหมรังสี เคยธุดงค์จาริกและแวะพักเมื่อครั้งเดินทางไปเมืองกำแพงเพชร

 

ที่อยู่ : เมืองนครสวรรค์, นครสวรรค์

เครดิต : https://1th.me/WSa5N

 

วัดเกยไชยเหนือ

วัดเกยไชยเหนือแห่งนี้ นอกจากเป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านแล้ว ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2390 เดิมเรียกว่า "วัดบรมธาตุ" ทั้งนี้ เนื่องจากมีเจดีย์บรรจุพระสารีริกธาตุทรงลังกาฐานแปดเหลี่ยมที่มีมาก่อนการสร้างวัด โดยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยาต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพมาปราบข้าศึกที่บ้านเกยไชย แล้วได้พระราชทานวิสุงคามสีมาให้วัดเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2400 

สถานที่สำคัญ 

- พระอุโบสถหลังเก่าริมน้ำน่าน ที่ยังคงสถาปัตยกรรมอันคลาสสิก ที่นี่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในมีปูชนียวัตถุสำคัญ คือ พระประธาน ซึ่งองค์พระมีลักษณะเป็นลายดอกพิกุล และรูปหล่อพระครูนิรภัยวิเทต (หลวงพ่อทองอยู่) อดีตเจ้าอาวาสวัดเกยไชยเหนือ 

- พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดเกยไชยเหนือที่ปลูกสร้างเป็นอาคารทรงไทย 2 หลัง หลังแรกเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าสร้างประมาณปี พ.ศ. 2539 ภายในจัดแสดง เครื่องปั้นดินเผาที่มีการงมได้จากบริเวณท่าน้ำวัด นอกจากนี้ยังมีเครื่องเบญจรงค์ เครื่องจักสาน โทรทัศน์รุ่นเก่า เครื่องแก้ว ตะเกียง เตารีดฯลฯ ส่วนอาคารหลังที่สองนั้นสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2541 ตั้งชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ต้นน้ำ ภายในจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผา เครื่องแก้ว เครื่องเบญจรงค์ ธนบัตร เงินเหรียญโบราณ เครื่องทองเหลือง ปืนยาว เป็นต้น 

- อาคารอาศรมศิลป์ท้องถิ่นตำบลเกยไชยเป็นที่เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำตาลโตนด และภูมิปัญญาชาวบ้านของตำบลเกยไชยในการพัฒนาผลผลิตจากตาลโตนด โดยจัดแสดง ตะเกียบไม้นวดงวงตาลตัวผู้และตัวเมีย มีดปาดตาลและเข็มขัดกระบอกใส่น้ำตาลสด กะทะใบบัว แม่พิมพ์หยอดน้ำตาลปีกหรือไม้แป้นและแผนผังขั้นตอนการทำน้ำตาลรูปแบบต่าง ๆ 

- ตำนานจระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำน่าน ซึ่งแม่น้ำน่านบริเวณที่ไหลผ่านหน้าวัดนี้เองเป็นต้นกำเนิดตำนานของจระเข้ยักษ์ที่รู้จักกันดีว่า " ไอ้ด่างเกยไชย " ซึ่งออกอาละวาดกินคนในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีตำนานเล่าว่าไอ้ด่างเกยไชยนั้นเป็นจระเข้ดุร้าย ตรงหัวมีรอยด่างสีขาว รูปร่างใหญ่โต ความยาวจากปากถึงขากรรไกรประมาณ 1 วา ความสูงจากพื้นสูงประมาณ 5-6 ศอก ความยาวกว้างเท่าแม่น้ำ และภายหลังถูกฆ่าตายแล้วนำหัวกระโหลกมาทิ้งที่ศาลเจ้าแม่เกยไชยนั่นเอง 

- ต้นชุมแสง เป็นต้นไม้ส่วนใหญ่ที่พบได้ภายในวัด ซึ่งหาชมได้ยากเต็มทีในปัจจุบัน โดยความคิดนี้มาจาก พระครูนิธาน ปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอชุมแสง ที่ต้องการอนุรักษ์ต้นชุมแสง จึงได้นำมาปลูกที่วัดเกยไชยเหนือ ต้นชุมแสงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำถิ่นไปโดยปริยาย 

- ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นชาวบ้านตำบลเกยไชย โดยสินค้าขึ้นชื่อคือผลิตภัณฑ์จากตาลโตนด เช่น น้ำตาลสด น้ำตาลปึก ลอนตาลสด จาวตาลเชื่อม เป็นต้น ทางโรงเรียนวัดเกยไชยเหนือได้ฝึกเด็กนักเรียนเป็นมัคคุเทศน์น้อยนำชมวัดและพิพิธภัณฑ์ผู้สนใจต้องแจ้งล่วงหน้าได้ที่โรงเรียน โทร +66 5635 3176

 

ที่อยู่ : หมู่ 4 บ้านปากคลอง ชุมแสง, นครสวรรค์

เครดิต : https://1th.me/eX0nF

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only