สะพานไม้แกดำ
สะพานไม้แกดำ
สะพานไม้เก่าแก่ มีความยาว 1 กิโลเมตร
เชื่อมระหว่างบ้านแกดำกับบ้านหัวขัวทอดข้ามหนองน้ำแกดำท่ามกลางกอบัวและพืชน้ำสีเขียวตลอดเส้นทาง
ปัจจุบันชุมชนได้ช่วยกันซ่อมแซมสะพานเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์
และเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักถ่ายภาพเป็นอย่างมาก
การเดินทาง จากตัวเมืองมหาสารคาม ใช้ทางหลวงหมายเลข 2040 ประมาณ 11
กิโลเมตร
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2380 ไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร
จะเจอป้ายวัดดาวดึงษ์แกดำสะพานไม้แกดำอยู่ด้านหลังของวัด
ที่อยู่ : แกดำ, มหาสารคาม
เครดิต : https://zhort.link/kfm
อุทยานมัจฉาโขงกุดหวาย
อุทยานมัจฉาโขงกุดหวาย
หางจากเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม 6 กิโลเมตร ตามเส้นทางมหาสารคาม
มุกดาหารบริเวณอุทยานตั้งอยู่ในกุดหวาย คาว่ากุด
หมายถึงทางน้ำทีแม่น้ำเปลี่ยนทางเดินเป็นเวลานาน บริเวณกุดหวายทีว่านี้
เดิมต้นหวายเกิดล้อมรอบ สวนตรงเนินกลางกุดมีหญ้าคา
หญ้าแฝกงอกงามมากตรงบริเวณหัวคุ้งน้ำ พระครูพิทักษ์โกสุมพิสัย (ญาครูโม่ง)
เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีได้ไปตั้งสำนักสงฆ์เพื่อเป็นสวนหญ้า
สำหรับเกี่ยวมามุงศาสนสถานในสมัยโบราณ
ปัจจุบันบริเวณนี้ชาวบ้านได้ตั้งเป็นวัดชื่อ พิทักษ์สามัคคีโพธิ์ศรี 2
เมื่อพุทธศักราช 2537 ศูนย์บริการเกษตรกรรมเคลื่อนที่และกรมชลประทาน
ได้ขุดลอกเป็นคุ้งน้ำตามแนวเดิมทีกว้างที่สุดประมาณ 120 เมตร ลึกจากผิวดิน
10 เมตร โค้งเป็นรูปเกือกมายาวประมาณ 800 เมตร มีความจุน้ำประมาณ 96,000
ลูกบาศก์เมตร ด้านทิศตะวันตกมีทางน้ำธรรมชาติ
ไหลล้นลงลำน้ำรอบกุดด้านทิศเหนือมีหมู่บ้านโขงกุดหวายตั้งอยู่
ประชากรเป็นคนไทยลาวและไทยโคราช พุทธศักราช 2537
ประมาณเดือนตุลาคมเกิดน้ำหลากท่วมสองฝังลำน้ำชีทะลักเข้าโขงกุดหวาย
และไหลลงแม่น้ำมูล แม่น้ำโขงตามลำดับ ฝูงปลาเผาะ
เป็นตระกูลปลาสวายชาวอีสานบางส่วนเรียกว่าปลาซวย ปลาวังก็มี
สำหรับปลาเผาะนี้อาศัยอยู่ตามแม่น้ำโขง และปากแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง เช่น
ปากแม่น้ำมูล ได้รวมกันเป็นฝูงว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นมา
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน อาจเป็นเพราะว่าแก่งตะนะ
ซึ่งเป็นแก่งและซอกหินที่เคยอาศัย ถูกระเบิดเพื่อสร้างเขื่อนปากมูล
ปลาเหล่านี้ไม่มีที่อาศัยจึงแตกตื่นทวนกระแสน้ำขึ้นมารวมกับปลาเลี้ยงทีน้ำท่วมบ่อ
เช่น ปลาตะเพียน ยี่สก นิล ไน ได้มารวมกันอยู่ ในโขงกุดหวายจำนวนมาก
โดยเฉพาะปลาเผาไม่มากกว่าชนิดอื่น
และเป็นปลาขนาดใหญ่ปัจจุบันลำตัวยาวประมาณ 2 ศอก
ชอบว่ายเหนือน้ำตามกินอาหารจากคนไปเทียวชม เมื่อรวมปลาชนิดต่าง ๆ
แล้วมีประมาณหลายแสนตัว ชาวบ้านถือเป็นโอกาสดี
จึงร่วมกันปิดกั้นทางน้ำมิให้ไหลลงลำน้ำชี
ต่อมาทางราชการได้เสริมคันดินให้แข็งแรงโดยมีความยาว 30 เมตร
สันคันดินกว้าง 8 เมตร และร่วมกันตั้งชื่อว่า อุทยานมัจฉา
การดำเนินงานในอุทยานใช้วัฒนธรรมนำการพัฒนา
ทุกคนในหมู่บ้านร่วมมือกันโดยมีวัดในพุทธศาสนาเป็น ศูนย์กลาง
ภายในวัดก็จะมีสัตว์ที่ชาวบ้านนำมาวัดช่วยเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น จระเข้
สุนัขจิ้งจอก ลิง เยี่ยว กระต่าย นก และหนูตะเพา ฯลฯ และยังมี
พิพิธภัณฑ์บ้านอีสาน อีกด้วย และได้จัดทำโครงการอนุรักษ์ปลาหน้าวัด
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50ปี
ห้ามจับสัตว์น้ำ หรือทำการประมงในที่รักษาพืชพันธ์
ผู้ฝ่าฝืนต้องรับโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน
หรือทั้งจำทั้งปรับ ภายในอุทยานแห่งนี้ มีร้านจำหน่ายอาหารปลา มีสะพานไม้
ขนาดกว้าง 1 เมตร 60 เซนติเมตร ยาว 83 เมตร ข้ามคุ้งน้ำไปบริเวณวัด
และใช้เป็นสถานที่ให้อาหารปลาและชมปลาได้ด้วย มีซุ้มริมฝั่งน้ำ 4 ซุ้ม
แพลอยน้ำขนาด 3 x 5.50 เมตร จำนวน 10 แพ
ให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารและชมปลา
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทีมีประชาชนไปเที่ยวจำนวนมาก ทุกวัน
ที่อยู่ : บ้านโขงกุดหวาย หมู่ที่ 7 ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
เครดิต : https://zhort.link/kfr
พระธาตุนาดูน
พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอำเภอนาดูน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน
โบราณวัตถุต่าง ๆ
ที่ค้นพบได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น
และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ
เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15
สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้นในเนื้อที่
902 ไร่ โดยบริเวณรอบ ๆ จะมีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ
สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา
การเดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอำเภอแกดำ
อำเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2045 ถึงอำเภอนาดูน
ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร
ที่อยู่ : นาดูน, มหาสารคาม
เครดิต : https://1th.me/8q67b
พิพิธภัณฑ์นครจำปาศรี
ตั้งอยู่ที่ตำบลพระธาตุ ทางทิศใต้ของพระธาตุนาดูน เก็บรวมรวมรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ และเป็นแหล่งข้อมูลอาณาจักรจำปาศรี นครโบราณสมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 13-16 พิพิธภัณฑ์ฯ
ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2543 ลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2
หลังเชื่อมต่อกัน แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 พุทธศาสนา:
ศาสตร์แห่งบูรพทิศ
ส่วนที่ 2 การค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ 1 องค์
ขนาดเท่าเม็ดข้าวสารหัก สีขาวขุ่นคล้ายแก้วมุกดาบรรจุในสถูปสัมฤทธิ์
ส่วนที่ 3 การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่นาดูน เช่น พระพิมพ์ดินเผาสมัยทวารวดี
ส่วนที่ 4 พุทธมณฑลอีสาน จำลองเนินโบราณสถานและผังตำแหน่งสถูปสัมฤทธิ์
และมีวีดีทัศน์สรุปเหตุการณ์สำคัญที่ยิ่งใหญ่นี้
เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ หยุดวันอาทิตย์ เวลา 08.00-16.00 น.
ที่อยู่ : นาดูน, มหาสารคาม
เครดิต : https://1th.me/C36zk
หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านหนองเขื่อนช้าง
หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านหนองเขื่อนช้าง
อยู่เลขที่ 171 หมู่ 7 ตำบลท่าสองคอน เป็นหมู่บ้านทอผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก
ผ้าฝ้ายทอมือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ กางเกงขาก๊วย
ของชำร่วย กระเป๋า หมอน ย่ามลายขิต และยังมีงานหัตถกรรมจักสานอีกด้วย โทร. 0
4375 8230, 08 1974 7667, 08 1768 1649
การเดินทาง
จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 208 สายมหาสารคาม-โกสุมพิสัย ระยะทาง 12
กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายระหว่างกิโลเมตรที่ 47-48 เข้าทางหลวงหมายเลข 2029
สู่บ้านบ่อใหญ่โนนตาล เดินทางต่อไปอีก 2 กิโลเมตร
จึงจะถึงหมู่บ้านหนองเขื่อนช้าง
ที่อยู่ : 171 หมู่ 7 บ้านหนองเขื่อนช้าง เมืองมหาสารคาม, มหาสารคาม
เครดิต : https://1th.me/Dtrk8
กู่สันตรัตน์
ตั้งอยู่ที่ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน เป็นปราสาทหินที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่
7 เป็นศิลปะขอมสมัยบายน อายุระหว่าง พ.ศ. 1700-1750
ตัวปราสาทสร้างด้วยศิลาแลงเป็นแท่งสี่เหลี่ยมเหมือนกู่มหาธาตุ
และมีทับหลังประตูมุขหน้าจำหลักลายงดงามน่าดู
การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข
2040 ผ่านอำเภอแกดำ อำเภอวาปีปทุม เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 2045
(เข้าอำเภอนาดูน) ประมาณ 1 กิโลเมตร จะอยู่ทางขวามือ
ที่อยู่ : นาดูน, มหาสารคาม
เครดิต : https://1th.me/rZbzv
แสดงความคิดเห็น