26/10/64

5 สถานที่ท่องเที่ยว จ.สุพรรณบุรี

บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

ที่นี่คือบึงน้ำธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี ความกว้างใหญ่ของบึงแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือประกอบด้วยพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร โดยบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าวทุกประการ เพียงแต่เป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1-3 เมตร
ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นต้นแม้ว่าก่อนหน้านี้ บึงฉวากจะเป็นเพียงบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสุพรรณบุรี จนเมื่อปี พ.ศ. 2538 ฯ พณฯ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ได้พัฒนาบึงฉวากเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นที่มาของชื่อ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ และมีการสร้างสวนสัตว์ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำอุทยานผักพื้นบ้าน อีกทั้งมีบริการนวดแผนไทย และเรือเร็วบริการ เพื่อพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายของจังหวัดสุพรรณบุรีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บรรยากาศริมบึงฉวากมีลมพัดเย็นสบายตลอดปี บริเวณบึงเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงและชมพู ในช่วงเช้าบัวจะเบ่งบานสวยงาม มองเห็นนกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม และนกจะทยอยกลับในช่วงเดือนเมษายน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมทัศนียภาพเหล่านี้ได้ในบริเวณศาลาริมบึง หรือปั่นจักรยานน้ำ ตลอดจนขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมริมบึงก็ยังได้ 
กิจกรรมที่น่าสนใจ 
 - สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติเป็นหน่วยงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในแบ่งเป็น 3 อาคาร ได้แก่ อาคารแสดงสัตว์น้ำหลังที่ 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม ทั้งพันธุ์ปลาไทย และพันธุ์ปลาต่างประเทศกว่า 50 ชนิด อาคารแสดงสัตว์น้ำหลังที่ 2 ประกอบด้วยตู้ปลาขนาดใหญ่สวยงามบรรจุน้ำได้กว่า 400 ลูกบาศก์เมตร และมีอุโมงค์ความยาวประมาณ 8.5 เมตร ถือว่าเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย ชมสาธิตการให้อาหารปลา สำหรับการแสดงตู้ปลาใหญ่มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งหมด 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 10.30-16.00 น. อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลหายาก มีอุโมงค์ปลาและบันไดเลื่อนยาว 75 เมตร เพื่อให้ได้ศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิด
 - เวทีริมบึง ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรี นำการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่หาดูได้ยากมาให้ชมในช่วงวันหยุดเทศกาล
 - บ่อจระเข้น้ำจืด เป็นบ่อจระเข้ที่ถูกจำลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด มีจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยขนาด 1.5-4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว มีการแสดงจระเข้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งหมด 4 รอบ คือ 11.00 น., 12.30 น., 14.00 น. และ 15.30 น.
 - ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ประกอบไปด้วย อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ การดูนก พร้อมตู้จำลองระบบนิเวศ ห้องฉายสไลด์วิดิทัศน์ ด้านนอกอาคารมีกรงเลี้ยงนกขนาดใหญ่ ประกอบด้วยนกกว่า 45 ชนิด เช่น นกกาบบัว นกเป็ดแดง ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าสีทอง ซึ่งว่ากันว่าเป็นไก่ฟ้าที่สวยงามที่สุดในโลก ถัดไปเป็นกรงเสือขนาดใหญ่-เล็ก มีเสือชนิดต่าง ๆ ให้ชมและที่พิเศษคือ มีลูกเสือดูดนมหมู และสัตว์สวยงามอีกหลายชนิด (สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00-18.00 น. โทร. +66 3543 9206, +66 3543 9210)
 - กรงเสือและสิงโต เป็นกรงเลี้ยงสัตว์ป่าตระกูลแมว อันได้แก่ สิงโต เสือโคร่ง เสือลายเมฆ เสือดาว แมวดาว เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกรงสัตว์ป่าหายากอีกหลายประเภทที่จัดแสดงไว้ให้ชม เช่น นกน้ำ นกยูงและไก่ฟ้าชนิดต่าง ๆ ม้าลาย อูฐ และนกกระจอกเทศ เป็นต้น (ติดต่อสำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. +66 3548 1250)
 - เกาะกระต่าย พื้นที่คล้ายเกาะ สร้างเป็นที่พักของกระต่าย 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เจอร์ซี่ วูลลี่ และสายพันธุ์แองโกร่า รวมทั้งมีกวางดาว เน้อทราย และด้วยพื้นที่ที่เป็นเกาะมีพื้นที่น้ำล้อมรอบ จึงเลี้ยงปลาไว้ในกระชังอีกจำนวนมาก เพื่อให้ผู้คนเพลิดเพลินไปกับการให้อาหารปลา เช่น ปลาทอง ปลาคาร์ฟ ปลาสวายเผือก ฯลฯ
 - ศูนย์จำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ รวบรวมสินค้าทั้งของกินและของใช้จากจังหวัดสุพรรณบุรีมาไว้ที่นี่ นอกจากจะแสดงสินค้าภายในจังหวัดแล้ว ยังรวบรวมสินค้าจากจังหวัดใกล้เคียงมาไว้ในอาคารนี้อีกด้วย
 - โรงสีชุมชน สถานที่รับรองผลผลิตของเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวปลอดสารพิษ นำผลผลิตที่ได้มาส่งให้โรงสีขนาด 5 กก. ต่อชั่วโมง เพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารปลอดสารพิษบึงฉวาก ออกจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรกร และอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค
 - อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ เฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก อยู่ในความดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปเห็นคุณค่าและอนุรักษ์ผักพื้นบ้าน โดยรวบรวมผักพื้นบ้านจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทยกว่า 500 ชนิด มาปลูกไว้ในบริเวณเกาะกลางบึงฉวาก มีทั้งสมุนไพร ไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุกและไม้ชื้นแฉะที่น่าสนใจ เช่น น้ำเต้าสี่เหลี่ยม บวบหอมขนาดใหญ่ อุโมงค์น้ำพุ และการจัดสวนไม้ประดับด้วยผักพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังมีโรงปลูกพืชระบบระเหยน้ำและสาธิตการปลูกพืชไร้ มีห้องนิทรรศการแสดงผลผลิตทางการเกษตร 
ศูนย์บริการท่องเที่ยวเกษตรอุทยานผักพื้นบ้านฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. +668 1948 9214, +668 9836 1358 โทร. +66 3543 0011 หรือ สำนักงานเกษตร อำเภอเดิมบางนางบวช โทร. +66 3554 5450, 0 3555 5455บ่อจระเข้น้ำจืด เป็นบ่อจระเข้ที่ได้จำลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยขนาด 1.5-4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นความเป็นอยู่แบบธรรมชาติชของจระเข้และสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด มีการแสดงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบ 11.00 น. 12.30 น. 14.00 น. และ 15.30 น. รู้ก่อนเที่ยว - บึงฉวากเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 - สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เช่น ทางลาด, ป้ายสัญลักษณ์, ห้องน้ำ, บริการรถเข็นสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุฟรี - ภายในมีรีสอร์ท 'บึงฉวากรีสอร์ท' สำหรับการพักผ่อนที่มาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. อัตราค่าบริการคนไทย ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท/ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาทสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. +66 3543 0043-4, +663543 0109, +66 3543 0111
 
 
 
 
ที่อยู่ : เดิมบางนางบวช, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/aU4Fg
 
 
 

วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม (วัดเขาพระ)

วัดเขาพระศรีสรรเพชญารามหรือวัดเขาพระในอดีต เป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยทวารวดีเพราะพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ ซึ่งสลักจากเนื้อหิน ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น "เทวรูปจักรนารายณ์เนื้อหิน" เป็นเทวรูปที่สลักอยู่บนเนื้อหิน ลักษณะเป็นแผ่นหินสลักนูนสูง เป็นรูปทิพยบุคคลมี 4 กร พระหัตถ์ซ้ายขวาทั้งบนและล่าง ล้วนถือสิ่งต่าง ๆ อยู่ เช่น จักร คทา เป็นต้น ส่วน "ซากเจดีย์อยุธยา" ตั้งอยู่บนยอดเขาเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 8 เมตร ส่วนบนเป็นองค์ระฆังสมัยทวารวดี เจดีย์นี้คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา โดยสร้างซ้อนทับบนโบราณสถานสมัยทวารวดี ถัดไปคือ "รอยพระพุทธบาทจำลอง" ซึ่งแกะสลักมาจากหินทรายสีเขียว ตั้งอยู่บนยอดเขา สลักลวดลายมงคล 108 ประการ ในกรอบวงกลม คาดว่าเป็นศิลปะสมัยทวารวดีตอนปลายที่ ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม อายุน่าจะอยู่ในช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ 16- 17 ความร่มรื่นและความงดงามของวัดแห่งนี้ จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อได้แวะมาจังหวัดสุพรรณบุรี รู้ก่อนเที่ยว วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม จะมีงานนมัสการพระพุทธไสยาสน์ปีละ 2 ครั้ง คือ วันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 12 กับวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 5 หากได้มาเยือนในช่วงเวลาดังกล่าว คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคักไปอีกแบบ 
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สอบบถามเพิ่มเติมได้ที่ +668 4734 2515, +668 1759 0756, +668 4727 2505
 
 
 
 
 
ที่อยู่ : อู่ทอง, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/xvfVT
 
 
 

วัดประตูสาร

แม้จะไม่มีหลักฐานระบุชัดว่า วัดประตูสาร สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด หากแต่สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ. 2345 เนื่องจากเป็นปีที่สุนทรภู่มาเยือนจังหวัดสุพรรณบุรี และได้เขียนโคลงนิราศสุพรรณบุรีขึ้น โดยภายในโคลง มีการกล่าวถึงวัดแห่งนี้ไว้ ในอดีตกาล ศาลาวัดแห่งนี้เคยใช้เป็นศาลตัดสินคดีความ พอตัดสินเสร็จ ศาลก็ยกเลิกไปแล้วกลับมาเป็นศาลาวัดตามเดิม แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันไม่มีศาลาดังกล่าวให้เห็นอีกต่อไป เหลือเพียงวิหารกับโบสถ์ที่สร้างอยู่เคียงกัน โดยหันหน้าไปทางตะวันออกสู่แม่น้ำท่าจีน มีกำแพงล้อมรอบ กำแพงด้านทิศเหนือทำหน้าที่เป็นกำแพงวัด ส่วนอีก 3 ด้านที่เหลือมีประตูเข้า-ออกตกแต่งด้วยรูปปั้นและลายเขียนสีงดงาม ด้านหน้ามีมณฑปหลวงพ่อก๋ำ (พระครูวิธุรสีตาคม) จุดเด่นที่น่าสนใจของวัด คือ จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและภาพวิถีชีวิตของสามัญชน ผนังระดับเหนือประตูและหน้าต่างด้านซ้ายและขวาเขียนภาพอดีตของพระพุทธเจ้า โดยแบ่งเนื้อที่ไปตามยาวของผนังเป็น 3 แถว ส่วนบนสุดเขียนภาพอดีตพุทธเจ้าเรียงเป็นแถว 20 องค์ ส่วนกลาง 19 องค์ และส่วนล่าง 20 องค์ รวมเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้าผนังด้านละ 59 องค์ ส่วนผนังหุ้มกลองหลังพระประธานส่วนบน เขียนภาพพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ อยู่ในท่าประทับยืนปางประทานพร และด้านล่างเป็นภาพพระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์ ภาพจิตรกรรมอันงดงามนี้คาดว่าน่าจะวาดโดยนายคำ คนเดียวกับที่เขียนภาพที่วัดหน่อพุทธางกูร โดยเขียนขึ้นในช่วงประมาณ พ.ศ. 2391 
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. +66 3554 3598
 
 
 
 
 
ที่อยู่ : ถนนขุนช้าง เมืองสุพรรณบุรี, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/xPiYR
 
 
 
 

วัดพระนอน

อันซีนไทยแลนด์แห่งหนึ่งของเมืองไทยที่ควรค่าแก่การแวะเวียนมาเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต โดยวัดพระนอนแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ และปลูกสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น ศาลาการเปรียญที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัด ส่วนด้านในจะพบกับ "อุทยานมัจฉา" ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำหน้าวัด มีปลานานาชนิดชุกชุม ทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด โดยทางวัดประกาศเป็นเขตอภัยทาน ใกล้ ๆ กับอุทยานมัจฉาเป็น "ศาลเจ้าแม่กวนอิม" ซึ่งผู้สนใจสามารถแวะเข้าไปสักการะเจ้าแม่ได้ที่นี่ ถัดมาคือ"วิหารพระนอน" เป็นวิหารทรงจตุรมุข โดยมุขด้านหน้ามีหลังคาต่อเติมออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาไหว้พระ ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักจากหิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดพระนอน จุดเด่นของพระพุทธรูปองค์นี้ แปลกว่าที่อื่นตรงที่เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในลักษณะนอนหงายขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ 2 เมตร คล้ายกับพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้แล้ว บริเวณโดยรอบวัด ยังมีการปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ผลและไม้ประดับ ทำให้วัดดูร่มรื่นสวยงาม และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่เชิดหน้าชูตาแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3554 3554
 
 
 
 
 
ที่อยู่ : ถนนสมภารคง เมืองสุพรรณบุรี, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/rz8QH
 
 
 
 

วัดขวางเวฬุวัน

หนึ่งในสถานที่เยี่ยมชมพุทธวัตถุที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี คือ วัดขวางเวฬุวัน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณในสมัยทวารวดี หรือเมืองนเรศ (ภาษาท้องถิ่น) อายุประมาณ 400 ปี เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์โบราณ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากโบสถ์ทั่วไป มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ปัจจุบันเป็นโบราณวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การแวะมาเยี่ยมชม เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ +66 3552 5867, +66 3552 5880
 
 
 
 
ที่อยู่ : เดิมบางนางบวช, สุพรรณบุรี
เครดิต : https://1th.me/g2MZD
 
 

 

แสดงความคิดเห็น

Whatsapp Button works on Mobile Device only